วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557

"โตเกียว" ของนุน้ำ

โตเกียว ไม่ใช่ชื่อเมืองในประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นขนมที่นุน้ำโปรดปรานมากอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ขนมหรูขึ้นห้างที่ราคาแพง หากมันเป็นขนมสุดอร่อยที่ถูกแสนถูกและเห็นได้ตามถนนหนทาง ตามงานวัด และตลาดนัด แต่ก็ใช่ว่าจะหาร้านที่ออกแบบส่วนผสมและรสชาติได้ถูกปากถูกใจนุน้ำได้ง่ายๆ นุน้ำเลยออกแบบโตเกียวในแบบของนุน้ำ โดยได้รับคำแนะนำจาก "นก B" เพื่อนรัก ในการปรุงแต่งส่วนผสมให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้แบ่งปันให้เพื่อนๆ และคนที่นุน้ำรักได้ลองลิ้มชิมรสบ้าง...


การทำขนมโตเกียว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของแป้ง และไส้

ส่วนผสมของแป้ง (นุน้ำขอกะส่วนผสมตาม "นก B" สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องชั่งนะคะ
แป้งสาลี 1 ถ้วย
แป้งข้าวจ้าว 1/3 ถ้วย
เกลือ นิดหน่อย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสด 1 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย

ขั้นตอนการทำแป้ง
เริ่มจาก -- ตีไข่ให้ขึ้นฟู -- ใส่น้ำตาลลงไปจนน้ำตาลละลาย -- ใส่นม -- ใส่ส่วนผสมของแป้ง (แป้งสาลีกับแป้งข้าวจ้าวและเกลือที่ร่อนผสมกันเรียบร้อยแล้ว) -- ใส่น้ำ และวานิลลา.

ส่วนผสมของไส้
หมูสับ/ หอมซอย/ พริกไทย/ และเครื่องปรุง (ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาล)



ที่เหลือก็เป็นการใช้ฝีมือในการละเลียดแป้งให้มีรูปทรงสวยงามและบางกรอบเท่าที่จะทำได้ เติมใส่แบบที่ตัวเองชอบ พับหรือม้วนโตเกียวให้สวยงาม เพียงแค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้กับคนที่เรารักได้แล้ว...


"ผักดอง" สุดรัก

ด้วยความติดใจในรสชาติเปรี้ยวตัดหวานและความกรุบกรอบของ "ผักดอง" เครื่องเคียงที่จะต้องอยู่คู่เมนูอาหารเวียดนามที่นุน้ำปลาบปลื้มเป็นที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องเคียงที่แก้เลี่ยนอาหารประเภททอดๆ ย่างๆ ได้เป็นอย่างดีแล้ว ประโยชน์ของส่วนประกอบในผักดองอย่าง "น้ำส้มสายชูหมัก" นั้นก็มากพอตัวเช่นกัน 

http://www.thai-japanbev.com/general.html


ในเมื่อมันหาซื้อกินไม่ได้ในทุกมื้ออาหาร และวิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก นุน้ำจึงค้นหาสูตรจากเน็ต แล้วนำมาทดลองปรับสูตรให้ตรงกับความชอบของตัวเองทันที...


ผักดอง ด้วย น้ำส้มสายชูหมัก มีกระบวนการทำที่ง่ายมาก และทำได้กับผักแทบทุกชนิด 
เริ่มจาก ..เพียงแค่เตรียมผักที่ต้องการจะดอง อาทิ แคร์รอต หัวไชเท้า แตงกวาญี่ปุ่น หรือหากเป็นแตงกวาไทยก็ให้คว้านไส้ออก 

เตรียมส่วนผสมของน้ำดอง ประกอบด้วย

น้ำส้มสายชูหมัก จะเป็นสับปะรด, ข้าวกล้อง หรือแอปเปิล ก็ยิ่งดี 1 ส่วน
น้ำเปล่า 1/2 ส่วน
น้ำตาล 1 ส่วน
เกลือ นิดหน่อย


จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำตาลละลาย พอเดือดให้ปิดเตาแล้วนำผักที่เตรียมไว้ลงไป ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงนำใส่ภาชนะที่มีฝาปิด เก็บในตู้เย็นเก็บไว้กินกับมื้ออาหารได้หลายวันเลยค่ะ ...

วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พะโล้ ของพี่นุช

(29/11/14) วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันหยุดที่แสนจะธรรมดาๆ ตื่นสายได้ ทำอะไรสบายๆ เหนื่อยก็พักงีบสักหน่อย ไม่มีแพลนอะไร แต่ในช่วงบ่ายวันนั้นขณะที่พาแม่ไปทำธุระข้างนอก พี่นุช* พี่สาวหน้าบ้านชักชวนไปทำพะโล้สามัคคีเพื่อนำไปโรงทานในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ของน้ำเลยดูจะเป็นวันพิเศษอีกวัน เพราะจะได้เรียนรู้วิธีการทำพะโล้สูตรเด็ดของพี่นุช....เย้ๆๆ

วัตถุดิบในการทำพะโล้ มีดังนี้
ขาหมูเผาหรืออบ/ หมูสามชั้นหรือหมูติดมัน/ กระดูกหมู/ ไข่/ เครื่องพะโล้/ รากผักชี/ กระเทียม/ พริกไทย/ น้ำตาลปึก/ ซีอิ๊วดำ/ เกลือ/ น้ำมัน

ขั้นตอนในการทำ
  • เริ่มจากต้มไข่ แล้วระหว่างรอไข่สุกก็โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกันไปพลาง จนได้เนื้อเนียนละเอียด นุ่มละมุนละไม
  • จนในที่สุด ไข่ก็สุก แล้วก็ลงมือปอกไข่กันอย่างทะนุถนอม เพื่อให้ได้ไข่ที่เรียบเนียนสวยไร้ที่ติ

  • ผัดเครื่องพะโล้ในกระทะพอให้มีกลิ่น

  • นำเครื่องที่โขลกไว้ลงผัดกับน้ำมัน พอหอมดีใส่น้ำตาลปึกลงไป เคี่ยวให้เดือด

  • ใส่หมูและกระดูกหมูลงไปผัดให้เข้ากัน 

  • เทไข่ลงไปให้หมด ใส่ซีอิ๊วดำ แล้วเทน้ำตามลงไป

  • ใส่เครื่องพะโล้ ตามด้วยขาหมูเผา 

  • ตุ๋นทิ้งไว้จนไข่เริ่มแข็งและเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม เคี่ยวให้เนื้อหมูนุ่มและเปื่อย เราก็จะได้ไข่และหมูที่เข้าถึงเครื่องพะโล้เรียบร้อยโรงเรียนพี่นุช ^___^





*พี่นุช พี่สาวหนึ่งในกลุ่มขาแดนซ์ DDNKP ที่บ้านอยู่ตรงข้ามฝั่งถนน พี่นุชขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ปลายจวัก เนื่องจากมีฝีมือในการทำอาหารที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณแม่