ohe
วันศุกร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2558
พิซซ่ากิมจิ (Kimchi Jeon)
ส่วนผสม
- กิมจิ
- แป้งเอนกประสงค์ (ใช้แป้งที่ปรุงรสแล้วก็ได้)
- ไข่ไก่
- หอมหัวใหญ่
- พริกสด
- ลูกชิ้นปลา หรือปูอัด กุ้ง ปลาหมึก (เท่าที่มี)
- เกลือ
- น้ำมัน
- น้ำ
(เมนูนี้ไม่มีอัตราส่วน นุน้ำใช้วิธีกะเอา)
วิธีทำ
1. หั่นกิมจิ และหอมหัวใหญ่ให้มีขนาดเล็ก พักไว้
2. ซอยพริกละเอียด
3. ผสมแป้ง ไข่ไก่ กับน้ำ คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดคลุกเคล้าเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย (หากใช้แป้งปรุงรสสำเร็จ ไม่ต้องปรุงเพิ่ม)
4. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพอประมาณ ตักส่วนผสมที่ได้ขนาด 1 ทัพพี (หรือจะให้ใหญ่กว่านั้นก็ได้) เกลี่ยลงในกระทะ พลิกกลับด้านจนสุก
น้ำจิ้ม
ใช้ซอสถั่วเหลือง/ น้ำส้มสายชู/ งาคั่ว/ น้ำตาล/ ต้นหอม /พริกป่น/ น้ำมันงา
รากบัวเชื่อม
ส่วนผสม
- รากบัวสด
- น้ำตาลมะพร้าว
- ใบเตย
- น้ำเปล่า
- หัวกะทิสด
วิธีทำ
1. ต้มน้ำใส่ใบเตยด้วยไฟอ่อน แล้วนำรากบัวลงไปต้มให้สุก เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเนื้อรากบัวเหนียวจนพอใจ
2. เติมน้ำตาลลงไปตามรสที่ชอบ
3. เคี่ยวจนน้ำตาลเหนียวข้น
4. ตักเสิร์ฟราดหัวกะทิสดที่ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
ขนมถ้วยกะทิ
ส่วนผสม (ขนมถ้วย)
แป้งข้าวจ้าว 1 ถ้วย
แป้งท้าว 5 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ช้อนชา
น้ำใบเตย 300 มล.
น้ำตาลมะพร้าว 1/2 ถ้วย
ส่วนผสม (หน้ากะทิ)
หัวกะทิ 3/4 ถ้วย
แป้งข้าวจ้าว 3 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/2 ช้อนชา
วิธีทำ
1. ผสมส่วนผสมของขนมถ้วยเข้าด้วยกัน ใช้ช้อนคน หรือจะใช้มือสะอาดๆ ขยำก็ได้ จนน้ำตาลกับแป้งละลาย จากนั้นกรองเศษแป้งทิ้ง พักไว้
2. ผสมส่วนผสมของหน้าขนมใช้เข้ากันจนเกลือละลาย กรองเศษแป้งทิ้งแล้วพักไว้เช่นกัน
3. นำถ้วยตะไลเปล่าใส่ซึ้งนึ่งให้เกิดไอร้อน ประมาณ 10 นาที (จะช่วยทำให้ตัวขนมไม่ติดถ้วย) จากนั้นนำส่วนผสมของขนมถ้วยเทลงไป 1/2 ของถ้วย นึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 7-8 นาที
4. ใส่ส่วนผสมที่เป็นหน้าขนมลงไป แล้วนึ่งต่อด้วยไฟแรงประมาณ 10 นาที
น้ำจิ้มสุกี้ (สูตรกระเทียมดอง) ของพี่ปุ๊ก
ส่วนผสม
พริกสด 150 กรัม
กระเทียมสด 280 กรัม
กระเทียมดอง 1,000 กรัม
เต้าหู้ยี้ 3 กรัม
ซอสมะเขือเทศ 100 กรัม
ผงปรุงรส 75 กรัม
น้ำตาล 10 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำต้มสุก 1 ถ้วย
งาขาวคั่ว
วิธีทำ
1. ปั่นกระเทียมพริกกับน้ำให้ละเอียด
2. ปั่นกระเทียมดองพร้อมน้ำของมันให้ละเอียด
3. ปั่นเต้าหู้ยี้ให้ละเอียด
4. ตั้งไฟอ่อน นำส่วนผสมทั้งหมดลงไปเคี่ยว เดือดแล้วปรุงรสด้วยเกลือ ซอลมะเขือเทศ น้ำตาล และผงปรุงรส
วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2557
"โตเกียว" ของนุน้ำ
โตเกียว ไม่ใช่ชื่อเมืองในประเทศญี่ปุ่น แต่เป็นขนมที่นุน้ำโปรดปรานมากอย่างหนึ่ง มันไม่ใช่ขนมหรูขึ้นห้างที่ราคาแพง หากมันเป็นขนมสุดอร่อยที่ถูกแสนถูกและเห็นได้ตามถนนหนทาง ตามงานวัด และตลาดนัด แต่ก็ใช่ว่าจะหาร้านที่ออกแบบส่วนผสมและรสชาติได้ถูกปากถูกใจนุน้ำได้ง่ายๆ นุน้ำเลยออกแบบโตเกียวในแบบของนุน้ำ โดยได้รับคำแนะนำจาก "นก B" เพื่อนรัก ในการปรุงแต่งส่วนผสมให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยหวังว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้แบ่งปันให้เพื่อนๆ และคนที่นุน้ำรักได้ลองลิ้มชิมรสบ้าง...
การทำขนมโตเกียว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของแป้ง และไส้
ส่วนผสมของแป้ง (นุน้ำขอกะส่วนผสมตาม "นก B" สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องชั่งนะคะ
แป้งสาลี 1 ถ้วย
แป้งข้าวจ้าว 1/3 ถ้วย
เกลือ นิดหน่อย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสด 1 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำแป้ง
เริ่มจาก -- ตีไข่ให้ขึ้นฟู -- ใส่น้ำตาลลงไปจนน้ำตาลละลาย -- ใส่นม -- ใส่ส่วนผสมของแป้ง (แป้งสาลีกับแป้งข้าวจ้าวและเกลือที่ร่อนผสมกันเรียบร้อยแล้ว) -- ใส่น้ำ และวานิลลา.
ส่วนผสมของไส้
หมูสับ/ หอมซอย/ พริกไทย/ และเครื่องปรุง (ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาล)
ที่เหลือก็เป็นการใช้ฝีมือในการละเลียดแป้งให้มีรูปทรงสวยงามและบางกรอบเท่าที่จะทำได้ เติมใส่แบบที่ตัวเองชอบ พับหรือม้วนโตเกียวให้สวยงาม เพียงแค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้กับคนที่เรารักได้แล้ว...
การทำขนมโตเกียว แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของแป้ง และไส้
ส่วนผสมของแป้ง (นุน้ำขอกะส่วนผสมตาม "นก B" สำหรับคนที่ไม่มีเครื่องชั่งนะคะ
แป้งสาลี 1 ถ้วย
แป้งข้าวจ้าว 1/3 ถ้วย
เกลือ นิดหน่อย
น้ำตาล 1/2 ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
นมสด 1 ถ้วย
วานิลลา 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
ขั้นตอนการทำแป้ง
เริ่มจาก -- ตีไข่ให้ขึ้นฟู -- ใส่น้ำตาลลงไปจนน้ำตาลละลาย -- ใส่นม -- ใส่ส่วนผสมของแป้ง (แป้งสาลีกับแป้งข้าวจ้าวและเกลือที่ร่อนผสมกันเรียบร้อยแล้ว) -- ใส่น้ำ และวานิลลา.
ส่วนผสมของไส้
หมูสับ/ หอมซอย/ พริกไทย/ และเครื่องปรุง (ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาล)
ที่เหลือก็เป็นการใช้ฝีมือในการละเลียดแป้งให้มีรูปทรงสวยงามและบางกรอบเท่าที่จะทำได้ เติมใส่แบบที่ตัวเองชอบ พับหรือม้วนโตเกียวให้สวยงาม เพียงแค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟให้กับคนที่เรารักได้แล้ว...
"ผักดอง" สุดรัก
ด้วยความติดใจในรสชาติเปรี้ยวตัดหวานและความกรุบกรอบของ "ผักดอง" เครื่องเคียงที่จะต้องอยู่คู่เมนูอาหารเวียดนามที่นุน้ำปลาบปลื้มเป็นที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องเคียงที่แก้เลี่ยนอาหารประเภททอดๆ ย่างๆ ได้เป็นอย่างดีแล้ว ประโยชน์ของส่วนประกอบในผักดองอย่าง "น้ำส้มสายชูหมัก" นั้นก็มากพอตัวเช่นกัน
http://www.thai-japanbev.com/general.html
ในเมื่อมันหาซื้อกินไม่ได้ในทุกมื้ออาหาร และวิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก นุน้ำจึงค้นหาสูตรจากเน็ต แล้วนำมาทดลองปรับสูตรให้ตรงกับความชอบของตัวเองทันที...
ผักดอง ด้วย น้ำส้มสายชูหมัก มีกระบวนการทำที่ง่ายมาก และทำได้กับผักแทบทุกชนิด
เริ่มจาก ..เพียงแค่เตรียมผักที่ต้องการจะดอง อาทิ แคร์รอต หัวไชเท้า แตงกวาญี่ปุ่น หรือหากเป็นแตงกวาไทยก็ให้คว้านไส้ออก
เตรียมส่วนผสมของน้ำดอง ประกอบด้วย
น้ำส้มสายชูหมัก จะเป็นสับปะรด, ข้าวกล้อง หรือแอปเปิล ก็ยิ่งดี 1 ส่วน
น้ำเปล่า 1/2 ส่วน
น้ำตาล 1 ส่วน
เกลือ นิดหน่อย
จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำตาลละลาย พอเดือดให้ปิดเตาแล้วนำผักที่เตรียมไว้ลงไป ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงนำใส่ภาชนะที่มีฝาปิด เก็บในตู้เย็นเก็บไว้กินกับมื้ออาหารได้หลายวันเลยค่ะ ...
http://www.thai-japanbev.com/general.html
ในเมื่อมันหาซื้อกินไม่ได้ในทุกมื้ออาหาร และวิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก นุน้ำจึงค้นหาสูตรจากเน็ต แล้วนำมาทดลองปรับสูตรให้ตรงกับความชอบของตัวเองทันที...
ผักดอง ด้วย น้ำส้มสายชูหมัก มีกระบวนการทำที่ง่ายมาก และทำได้กับผักแทบทุกชนิด
เริ่มจาก ..เพียงแค่เตรียมผักที่ต้องการจะดอง อาทิ แคร์รอต หัวไชเท้า แตงกวาญี่ปุ่น หรือหากเป็นแตงกวาไทยก็ให้คว้านไส้ออก
เตรียมส่วนผสมของน้ำดอง ประกอบด้วย
น้ำส้มสายชูหมัก จะเป็นสับปะรด, ข้าวกล้อง หรือแอปเปิล ก็ยิ่งดี 1 ส่วน
น้ำเปล่า 1/2 ส่วน
น้ำตาล 1 ส่วน
เกลือ นิดหน่อย
จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดลงไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนน้ำตาลละลาย พอเดือดให้ปิดเตาแล้วนำผักที่เตรียมไว้ลงไป ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วจึงนำใส่ภาชนะที่มีฝาปิด เก็บในตู้เย็นเก็บไว้กินกับมื้ออาหารได้หลายวันเลยค่ะ ...
วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557
พะโล้ ของพี่นุช
(29/11/14) วันนี้ดูเหมือนจะเป็นวันหยุดที่แสนจะธรรมดาๆ ตื่นสายได้ ทำอะไรสบายๆ เหนื่อยก็พักงีบสักหน่อย ไม่มีแพลนอะไร แต่ในช่วงบ่ายวันนั้นขณะที่พาแม่ไปทำธุระข้างนอก พี่นุช* พี่สาวหน้าบ้านชักชวนไปทำพะโล้สามัคคีเพื่อนำไปโรงทานในวันพรุ่งนี้ วันเสาร์ของน้ำเลยดูจะเป็นวันพิเศษอีกวัน เพราะจะได้เรียนรู้วิธีการทำพะโล้สูตรเด็ดของพี่นุช....เย้ๆๆ
วัตถุดิบในการทำพะโล้ มีดังนี้
ขาหมูเผาหรืออบ/ หมูสามชั้นหรือหมูติดมัน/ กระดูกหมู/ ไข่/ เครื่องพะโล้/ รากผักชี/ กระเทียม/ พริกไทย/ น้ำตาลปึก/ ซีอิ๊วดำ/ เกลือ/ น้ำมัน
ขั้นตอนในการทำ
*พี่นุช พี่สาวหนึ่งในกลุ่มขาแดนซ์ DDNKP ที่บ้านอยู่ตรงข้ามฝั่งถนน พี่นุชขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ปลายจวัก เนื่องจากมีฝีมือในการทำอาหารที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณแม่
วัตถุดิบในการทำพะโล้ มีดังนี้
ขาหมูเผาหรืออบ/ หมูสามชั้นหรือหมูติดมัน/ กระดูกหมู/ ไข่/ เครื่องพะโล้/ รากผักชี/ กระเทียม/ พริกไทย/ น้ำตาลปึก/ ซีอิ๊วดำ/ เกลือ/ น้ำมัน
ขั้นตอนในการทำ
- เริ่มจากต้มไข่ แล้วระหว่างรอไข่สุกก็โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเข้าด้วยกันไปพลาง จนได้เนื้อเนียนละเอียด นุ่มละมุนละไม
- จนในที่สุด ไข่ก็สุก แล้วก็ลงมือปอกไข่กันอย่างทะนุถนอม เพื่อให้ได้ไข่ที่เรียบเนียนสวยไร้ที่ติ
- ผัดเครื่องพะโล้ในกระทะพอให้มีกลิ่น
- นำเครื่องที่โขลกไว้ลงผัดกับน้ำมัน พอหอมดีใส่น้ำตาลปึกลงไป เคี่ยวให้เดือด
- ใส่หมูและกระดูกหมูลงไปผัดให้เข้ากัน
- เทไข่ลงไปให้หมด ใส่ซีอิ๊วดำ แล้วเทน้ำตามลงไป
- ใส่เครื่องพะโล้ ตามด้วยขาหมูเผา
- ตุ๋นทิ้งไว้จนไข่เริ่มแข็งและเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม เคี่ยวให้เนื้อหมูนุ่มและเปื่อย เราก็จะได้ไข่และหมูที่เข้าถึงเครื่องพะโล้เรียบร้อยโรงเรียนพี่นุช ^___^
*พี่นุช พี่สาวหนึ่งในกลุ่มขาแดนซ์ DDNKP ที่บ้านอยู่ตรงข้ามฝั่งถนน พี่นุชขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่ปลายจวัก เนื่องจากมีฝีมือในการทำอาหารที่สืบทอดมาจากรุ่นคุณแม่
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)